How to work with “Online Blogger/Influencers” ??
ในส่วนของ Digital advertising งานที่เราไม่ชอบมากที่สุดงานหนึ่ง คือ งานที่ต้องใช้ blogger/Influencer เพราะ การทำงาน กับ blogger/ Influencer เราต้องระลึกเสมอว่า บุคคลเหล่านี้ ไม่ใช่สินค้า ไม่ใช่สื่อ ไม่ใช่ publisher ที่เราสามารถนำเงินไปเสนอให้ทำตามสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ ได้ เราขอจัดกลุ่ม กลุ่มคนเหล่านี้ ว่า “ศิลปิน” ไม่ใช่เพราะว่า เค้า เหวี่ยง วีน หรือติสต์แตก ใดๆ แต่เพราะว่าเขาเป็นผู้สร้างผลงานที่มีvalue เพราะทุกงานที่พวกเขาเขียนนั้น ออกมาจากการทำการบ้าน อย่างหนัก และการโดนกดดันจากผู้ที่ติดตาม เราจึงนับถือพวกเขาเสมอ และ ยินดีมากที่จะเสนอคนกลุ่มนี้ ให้กับลูกค้า
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเราต้องใช้ blogger/Influencer ?? พวกเขามีความสำคัญต่อ แบรนด์ หรือ แคมเปญ ยังไง ?? ซึ่งความสำคัญของ blogger/Influencer ก็คือ เขาสามารถให้ข้อมูลกับ users ได้ระเอียด และ real กว่าที่แบรนด์จะพูดออกไป ส่วนความน่าเชื่อถือจะมีมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับเครดิต ของแต่ละคน
จากการทำงานที่ผ่านมา วันนี้ เราอยากแชร์วิธีการ ที่จะช่วยให้หลายๆ คนทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ซึ่งหลักๆ จะมี 3 ฝ่าย คือ ลูกค้า – เอเยนซี่ – blogger ส่วนหนึ่งมาจากบทความ จาก socialmediatoday ซึ่งน่าสนใจมาก จึงอยากนำมาเขียนและแชร์ต่อ โดยเริ่มจากหลักการทำงาน 4 หลักการ ตามนี้ค่ะ
ข้อ 1 Follow Their Rules เราต้องยอมรับว่า blogger/Influencer แต่ละท่าน ต่างมีกฎ หรือ เงื่อนไขในการทำงานต่างกัน ถ้าได้แจ้งมาแต่แรก เราต้องทำตาม ถ้ามีอะไรที่เพิ่มเติมเข้ามา ต้องรีบแจ้ง เพื่อให้เกิดความสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย เหมือนเราไปเที่ยวบ้านเพื่อน เค้าให้เราถอดรองเท้า เราก็ต้องทำตามกฎของเค้า ถ้าจะใส่รองเท้าเพราะมีเหตุผล ว่าถ้าถอดรองเท้าแล้วเท้าเหม็น เพื่อนเรารับได้ ก็ตกลงตามนั้น ไม่ใช่ เดินเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่มีใครชอบหรอกค่ะ
blogger/ Influencer ก็เช่นกัน ถ้ามีเงื่อนไข ว่างานจะลงใน media channel ไหน เราจำเป็นต้องปฎิบัติตามนั้น จะมาขอเพิ่มนู่นหน่อย นี่หน่อย ไม่ดีค่ะ และต้องให้ข้อมูลส่วนนี้กับลูกค้าทุกครั้ง ก่อนเริ่มงานด้วยค่ะ
ข้อ 2 Create a Compelling and Clear Message ข้อนี้สำคัญเหลือเกิน เราต้องเขียนอีเมลล์ หรือ แจ้งรายละเอียดให้แคมเปญเราดูน่าสนใจที่จะร่วมงาน และ ในบรีฟเองจะต้องเคลียร์มากๆๆ ด้วย อะไรที่ต้องพูดและอะไรที่ไม่ควรพูด ควรทำ Highlight ให้เห็นชัดๆ ลองอ่านและคิดแทน blogger/Influencer ซ้ำๆ ว่า ถ้าเป็นเรา เราอ่านจะเข้าใจไหม ถ้าเป็นเรา เราจะยอมทำตามเงื่อนไขเหล่านั้นไหม ถ้าเราลองอ่านดูแล้ว มันทะแม่งๆ ไม่เหมาะสม ก็อย่าไปให้เค้าทำเลย นอกจากจะเป็นกรณีพิเศษจริงๆ แล้วค่อยต่อรองกันต่อไปค่ะ
นอกจากนี้ แต่ละอีเมลล์ ที่ส่งบรีฟ blogger/Influencer ไม่ควร เขียนเมลล์เดียวแล้ว copy-paste ค่ะ เพราะแต่ละคน อาจจะต้องการวิธีการคุยที่แตกต่างกัน ถึงแม้จะเป็น แคมเปญเดียวกัน blogger/Influencer กลุ่มเดียวกัน วิธีการบรีฟ ก็ควรจะแตกต่างกันค่ะ ลองนึกถึงเวลาที่ คนอ่านไปอ่านเจอ แล้วเจอเนื้อหาแบบเดียวกัน แค่เปลี่ยนคนเขียน แบบนี้จะทำให้แคมเปญเราดูแย่ไปเลยค่ะ เสียเวลาคิดแยกกันซักนิด เพื่องานที่ตรงตามความต้องการของทุกฝ่ายจะดีกว่านะคะ อ้อ อย่าลืม ส่งให้ ลูกค้า approve ก่อนส่งให้ blogger/Influencer ทำงานนะคะ การแก้ไป-แก้มาหลายรอบ มันบั่นทอนความสัมพันธ์กันมากค่ะ จบงานนี้ ได้จบกันจริงๆ แน่
ข้อ 3 Do your homework เราควรจะทำการบ้านทุกครั้งนะคะ ก่อนที่เราจะใช้งานใคร อย่างแรกคือ เชคก่อน ว่า เขาเหมาะสมกับงานนี้ไหม จากนั้น เข้าไปรีวิว ใน blog หรือ social network ของเขา ว่าสถานการณ์ตอนนี้ เป็นไงบ้าง เค้าใช้สินค้าของคู่แข่ง หรือ เคยมีปัญหากับแบรนด์เราหรือเปล่า ?? หรือ เขาเพิ่งป่วย หรือ กำลังอยู่ในระหว่างไปเที่ยว ตปท. เพื่อให้เราสามารถคุยกันได้มากขึ้น เหมือนเราใส่ใจเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งค่ะ ถามสาระทุกข์ สุขดิบกันบ้าง จะได้รักกันนานๆ
ข้อ 4 follow up จบงานแล้ว ก็อย่าเพิ่งเลิกกันนะคะ โดนส่วนตัว ชอบ add friend กับ blogger/Influencer เพราะ เราจะได้ทำการบ้านตลอดเวลา และ ได้รับรู้ข่าวสารสถานการณ์ของเขาตลอด เพื่อไม่ให้ขาดการติดต่อ เราเชื่อว่า blogger/Influencer เหมือนเพื่อนเราคนหนึ่งค่ะ ยิ่งคบกันนาน ยิ่งมีค่า ไม่ต้องคุยเรื่องงานอย่างเดียวก็ได้ คุยเรื่องอื่นบ้าง มีโอกาสไปเจอหน้าบ้าง วันเกิด หรือ วันสำคัญ ก็ อวยพร หรือ ส่งของไปให้บ้าง ถ้าเราทำแบบนี้ ก็น่าจะรักและเข้าใจกันมากขึ้นนะคะ
สุดท้ายนี้ ก็อยากให้ คุณลูกค้า ได้เข้าใจด้วย ว่า blogger/Influencer คือ “ศิลปิน” หรือ “เพื่อน” เราคนหนึ่ง เราทำกับเพื่อนเรายังไง ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นแบบนั้น หลายๆ แบรด์ ทำได้ดีมาก และ อีกหลายๆ แบรนด์ ที่ยังไม่เข้าใจการทำงานแบบนี้ ก็ฝากบอกต่อกันด้วยนะคะ ส่วน blogger/Influencer เอง บางคนดังแล้วหยิ่ง เรื่อง เยอะ อันนี้ ทำอะไรไม่ได้ ต้องทำใจค่ะ และ อยากให้ยอมรับด้วยว่า ดาวรุ่งพุ่งแรง ในวงการ มีเกิดขึ้นทุกวัน เอเยนซี่อย่างเรา ง้อได้ไม่นานค่ะ เดี๋ยวเราเจอคนใหม่ เราก็ไปจับน้องใหม่ ที่คุยง่ายกว่า ราคาถูกกว่า มีคนติดตามมากกว่า
ไว้มีอะไร น่าสนใจจะมาอัพเดทอีกนะคะ รักนะทุกคน จุ๊บๆ
Image gettyimages