ทำไมต้อง Mobile Ad ??

ช่วงนี้ Blog จะมาช้าหน่อย เพราะ งานหนักหน่วงเหลือเกิน แต่ก็คิดถึง blog ทุกวันนะ หาข้อมูลที่น่าสนใจมาแชร์ทุกคนเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งเราจะเน้นเรื่อง Digital Media เป็นส่วนใหญ่ และในอนาคต น่าจะมี Digital Case Study มาแบ่งปันกัน โดยจะเป็น case ที่เราทำลูกค้า และขออนุญาตเอามาแชร์เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้ทุกคน ต่อไปค่ะ

วันนี้ เราจะพูดถึงเรื่อง Mobile ad กันนะคะ เพราะ Mobile media เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามาก เกือบจะเป็น ส่วนประกอบหนึ่งของชีวิตเลยก็ว่าได้ และเนื่องจาก mobile เป็นสื่อที่ติดตัวผู้บริโภคมากที่สุด Advertiser หรือ Agency ต่างก็หาวิธีที่จะสามารถสื่อสารถึงผู้บริโภคผ่านช่องทางนี้ให้มากที่สุดเช่นกันค่ะ วันนี้ เรามีข้อมูล Thailand Mobile Planet เป็นข้อมูลจาก google ค่ะ

Google ทำงาน วิจัยร่วมกับ Ipsos MediaCT ซึ่งสัมภาษณ์คนไทย (อายุระหว่าง 18-64 ปี) ที่มีการออนไลน์ 1,000 คน ซึ่งระบุว่าตนเองใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต พบว่า เหตุผล 5 ข้อที่เราต้องทำ Mobile ad  บน Smart phone ได้แก่

1.  สมาร์ทโฟนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน

  • 65% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ใช้ สมาร์ทโฟนทุกวันในช่วง 7 วันที่ ผ่านมา
  • 56% จะไม่ออกจากบ้าน ถ้าไม่มี สมาร์ทโฟน
  • มีการใช้สมาร์ทโฟนไปทุกที่ : 94% ที่บ้าน, 81% ระหว่างเดินทาง และ  64% ในร้านค้า
  • 35% ยอมเลิกดูทีวีมากกว่าเลิกใช้สมาร์ทโฟน

2-15-2014 3-44-13 PM

2. สมาร์ทโฟนได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค

  • Search : 73% search ผ่านสมาร์ทโฟนทุกวัน
  • การเข้าถึงข้อมูล : 67% ใช้สำหรับรับรู้ถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ , 67% ใช้เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
  • กิจกรรมที่ใช้ผ่านสมาร์ทโฟน : 89% ใช้สื่อสารกัน เช่น อีเมลล์ , 76% ใช้รับข่าวสาร เช่น อ่านข่าว , 95% ใช้เพื่อความบันเทิง เช่น อินเตอร์เนท , เล่นเกมส์ เป็นต้น
  • การใช้งาน mobile application มีอย่างกว้างขวางขึ้น :  โดยเฉลี่ยแล้ว สมาร์ทโฟน 1 เครื่อง จะดาว์นโหลด application ประมาณ 21 applications , ใน 1 เดือน มีการใช้งาน application โดยเฉลี่ยแล้ว 9 applications , สำหรับ application ที่ต้องจ่ายเงินซื้อ เฉลี่ยแล้ว มี 4 applications ต่อสมาร์ทโฟน 1 เครื่อง
  • การดูวีดีโอผ่านสมาร์ทโฟน พบว่า 96% ดูวีดีโอผ่านสมาร์ทโฟน และ อีก 53% ดูวิดีโออย่างน้อย 1 ครั้ง ต่อวัน
  • ผู้ใช้สมาร์ทโฟนเป็น Social Networker พบว่า 98% เข้า social network และ 82% เข้าอย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน (เวลาจะลงโฆษณาใน facebook ก็อย่าลืม เลื่อกให้โชว์ผ่าน mobile ด้วยนะคะ)
  • 89% ใช้สมาร์ทโฟนเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ ด้วย ตามภาพ

2-15-2014 3-03-40 PM3. สมาร์ทโฟนช่วยให้ผู้ใช้สามารถท่องไปได้ทั่วโลก

  • 95% เคยใช้สมาร์ทในการหาข้อมูลเกี่ยวกับท้องถิ่นที่ตัวเองอยู่
  • 90% นำข้อมูลเกี่ยวกับท้องถิ่นที่ตัวเองอยู่ที่เจอจากสมาร์ทโฟนไปใช้จริง
    • 41% ใช้สมาร์ทโฟนเพื่อติดต่อเรื่องธุรกิจ
    • 68% ใช้ดูข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ
    • 35% ใช้สมาร์ทโฟนในการบอกต่อ หรือ แชร์ต่อ
    • 36% ใช่สมาร์ทโฟนในการจับจ่ายใช้สอย และ ซื้อสินค้า

2-15-2014 3-45-08 PM

  • 78% หาข้อมูลเกี่ยวกับท้องถิ่นที่ตัวเองอยู่ อย่างน้อย 1 ครั้ง ต่อสัปดาห์
  • 51% หาข้อมูลเกี่ยวกับท้องถิ่นที่ตัวเองอยู่ทุกวัน

4. สมาร์ทโฟนได้เปลี่ยนวิธีการซื้อสินค้าของผู้บริโภค

  • 66% ใช้สมาร์ทโฟนในการหาข้อมูลสินค้า จากที่บ้าน
  • 45% ใช้สมาร์ทโฟนในการหาข้อมูลสินค้า ระหว่างเดินทาง
  • 26%  ใช้สมาร์ทโฟนในการหาข้อมูลสินค้า ในร้านค้า
  • 94% เคยค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการบนโทรศัพท์
  • 31% เคยเปลี่ยนใจที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ หรือบริการออนไลน์ หลังจากอ่านข้อมูลที่รวบรวมโดยใช้สมาร์ทโฟน
  • 30% เคยเปลี่ยนใจที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ หรือบริการในร้าน หลังจากอ่านข้อมูลที่รวบรวมโดยใช้สมาร์ทโฟน
  • 60% ศึกษาข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า ออนไลน์
  • 48% ศึกษาข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า ออฟไลน์
  • การทำธุรกรรม หรือซื้อของออนไลน์ผ่าน สมาร์ทโฟน : 51% เคยทำ  และ อีก 70% เคยทำการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนอย่างน้อยเดือนละครั้ง

5. สมาร์ทโฟนช่วยเชื่อมต่อผู้ลงโฆษณากับผู้บริโภค

  • 87% จะ search ผ่านสมาร์ทโฟนหลังจากดูโฆษณาแล้ว
  • 99% ทราบว่ามี mobile ad
  • Impression ใน mobile ad มาจากไหนบ้าง ตามภาพ

2-15-2014 3-45-56 PM

จะเห็นว่า mobile ad เป็นที่สื่อที่ใกล้ตัวผู้บริโภคมากๆ นอกจากนี้ ยังช่วยให้เกิดการซื้อสินค้าได้ง่ายด้วยค่ะ เจ้าของแบรนด์หรือสินค้า เวลาจะแบ่งงบโฆษณา ก็อย่าลืมนึกถึง mobile ad ด้วยนะคะ 🙂

Leave a comment