เราโฆษณาอะไรได้บ้าง ใน YouTube.co.th
ห่างหายกันไป พักใหญ่ๆ นะคะ เนื่องจาก ภาระกิจรัดตัวมาก วันนี้เลยกลับมาพร้อมกับอัพเดทเรื่อง ดิจิทัล ล่าสุดที่ครึกโครมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นคือการเปิดตัวของ YouTube Thailand
ในที่สุด YouTube ก็มาที่เมืองไทยซักที ทุกคนตื่นเต้น ทุกคนถามมาว่า จะสามารถลงโฆษณาใน YouTube ตรงไหนได้บ้าง ราคาเท่าไหร่ อะไรยังไง วันนี้ จะมาอัพเดท เท่าที่ได้ไปฟังทีม YouTube Thailand ในงาน YouTube Thailand For Partner เมื่อวันที่ 22 พค ที่ผ่านมาค่ะ
คำถามแรก ที่ติดในใจ คือ “YouTube สำคัญสำหรับคนไทยมากน้อยแค่ไหน ??” คุณ คุณพรทิพยุ์ กองชุน Head of Marketing Google ประเทศไทย ได้ช่วยอธิบายในส่วนนี้ โดยสรุปเป็นประเด็นได้ตามนี้ค่ะ
1. สำหรับ ผู้ชม VDO ผ่าน YouTube.co.th จะสามารถ เจอ VDO ที่มาแนะนำเราเป็น VDO จากคนไทยมากขึ้น เป็น VDO ภาษาไทยมากขึ้น
2. สำหรับ ผู้สร้าง VDO หรือ YouTube Creator จะสามารถสร้างรายได้ จาก VDO ที่ตนเองสร้างได้
3. สำหรับ แบรนด์หรือ เจ้าของสินค้า ที่เป็น พันธมิตรกับ YouTube ก็จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น (Target Audience, Expression , Participation)
คำถามที่สอง “ทำไมต้องลงโฆษณาใน YouTube ??” เหตุผลหลักๆ ที่เราจะแนะนำให้แบรนด์ลงโฆษณาใน YouTube เพราะมีข้อดีตามนี้คือ
1. Only pay when people watch :CPV จ่ายเมื่อมีคนเห็นเท่านั้น
2. Reach your ideal customer : Target/remarketing ตามรูปแบบเดียวกับ Google เลยค่ะ ที่เราสามารถ filter target ได้ อยากได้ อายุ,เพศ, ความสนใจแบบไหน ก็สามารถเลือกได้ และ ที่สำคัญเราสามารถ remarketing หรือ ให้ โฆษณาของเราตาม user ที่มีปฎิสัมพันธ์กับ VDO เราได้
3. Show up across devices ทาง YouTube Thailand มีข้อมูลมาว่า คนไทยเกือบ 50% ดู YouTube ผ่านมางโทรศัพท์ค่ะ ซึ่งโฆษณาใน YouTube นี้ สามารถลงได้ทั้งทาง Desktop , Mobile และ Tablet เรียกได้ว่า สามารถโฆษณาได้ทุกหนทุกแห่งที่คนดู VDO
4. See what’s working หน้า Dashboard หรือ หน้าแสดงผลการเล่น ของ YouTube รูปแบบคล้ายๆ Google Analytic ค่ะ เป็น Realtime report ทำให้เราสามารถเข้าไปเชคได้เลยว่า คนดู VDO เรามาจากช่องทางไหน และมีพฤติกรรมการดู VDO ตัวนี้ อย่างไรบ้าง ช่วยให้เราวิเคราะห์ VDO ที่กำลังเล่นอยู่ และ สามารถเป็นข้อมูลในการสร้าง VDO ตัวใหม่ให้ถูกใจคนดูมากขึ้นด้วยค่ะ
5. Build a following :Channel/Subscribe YouTube.co.th อนุญาติให้แบรนด์สร้าง Channel ที่เป็นรูปแบบที่ให้คนดูสนใจมากขึ้น หวือหวามากขึ้น
คำถามที่สาม (อันนี้ ส่วนตัวโดนถามมาเยอะมาก ) “รูปแบบโฆษณาของ YouTube มีอะไรบ้าง ??”
รูปแบบโฆษณาใน YouTube มี 3 แบบคร่าวๆ ตามนี้ค่ะ
1. YouTube Homepage Header หรือ เรียกชื่อว่า Mast Head โฆษณาตัวนี้ จะอยู่หน้าแรก ลงได้วันละ 1 ตัว เรียกได้ว่า 100% SOV (Share of Voice) สามารถลงได้ทั้ง Desktop และ Mobile ราคาค่อนข้างสูง และที่น่าตกใจคือ ปี 2014 มีโฆษณามา booked จนเต็มแล้วจ้า
ตัวอย่าง Mast Head ที่เล่นอยู่ตอนนี้ ณ วันที่ 26 พค 56
2. YouTube Gadget (Brand Channel) เป็น Section พิเศษที่ทางแบรนด์สามารถ Customize ได้ตามความเหมาะสมของแคมเปญ ซึ่งสามารถแสดงในรูปแบบ Rich media หวือหวา อลังการ งานสร้างได้ค่ะ
ตัวอย่าง YouTube Gadget (Brand Channel) : Pepsi
ตัวอย่าง YouTube Gadget (Brand Channel) : HP
3. YouTube Trueview โฆษณาส่วนนี้ จะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว บ้างก็ดูออกว่าเป็นโฆษณา บ้างก็ดูไม่ออกว่าเป็นโฆษณา โดยรูปแบบการเล่นของ Trueview จะมี 3 แบบ ดังนี้ค่ะ
a. Trueview In stream แถวบ้านเรียก Pre-roll จะเล่นก่อนเราดู VDO คิดเงินเมื่อคนดู 30 วินาทีเป็นต้นไป , มี Skip ad จะโชว์หลังจากเล่นไปแล้ว 5 วินาที
เพิ่มเติมสำหรับในส่วนของ Trueview In stream เราสามารถซื้อได้ 2 แบบค่ะ คือ ซื้อในระบบ YouTube เป็นแบบบิด เช่นเดียวกับ Google เลย ในรูปแบบ CPV หรือ จะซื้อกับทาง YouTube Thailand ที่เค้าจะทำเป็น package premium inventory ให้ เรียกว่า Prime Pack ซึ่ง package ตอนนี้ ได้ แก่ ThaiTV (ex. VRZO, Hormones) , Thaimusic, Korean TV, Beauty & Style (ex. โมเมพาเพลิน) เป็นต้น อยากได้แบบไหนก็เลือกเอาตามเงินในกระเป๋า และ target ของ คุณเอาเองนะคะ ( Prime Pack ขายเป็น CPM ค่ะ)
ตัวอย่าง YouTube Trueview In stream : Lancome
b. Trueview In Display ขึ้นด้านขวามือ เวลาเราดู VDO อยู่ รูปแบบโฆษณาจะเป็นแบบ Thumbnail VDO + Text
ตัวอย่าง YouTube Trueview In Display : Anfa SmartClub
c. Trueview In Search ขึ้นในหน้า search เวลาเรา search หา VDO รูปแบบโฆษณาจะเหมือน Trueview In Display คือ เป็นแบบ Thumbnail VDO + Text
ตัวอย่าง YouTube Trueview In Search : Ford Fiesta
นอกจากนี้ YouTube Thailand ยังช่วยให้เราเห็นภาพมากขึ้น ว่า YouTube จะตอบสนองในแต่ละ Consideration Set ของ Consumer ได้อย่างไรบ้าง โดยเรียงตั้งแต่ Awareness >> Consideration>> Conversion>>Advocacy& Royalty
• Awareness : สำหรับ YouTube Trueview จะช่วยให้เรา reach audience ได้กว้างขึ้น เมื่อก่อนเราอาจจะสามารถโฆษณาได้ใน Google Display Network หรือ GDN เท่านั้น แต่ตอนนี้ เรามี Audience ที่กว้างขึ้น คือเพิ่ม YouTube เข้ามาด้วยนั่นเอง
• Capturing Consideration : จากที่กล่าวมาช้างบน ทาง YouTube จะช่วยจัด Package สำหรับลงโฆษณาให้ ที่เรียกว่า Prime Pack ซึ่งใน package นี้ ทำให้เราสามารถส่งโฆษณาได้ตรงกับ Target ที่สนใจเรื่องเดียวกัน ได้ โดยมีทั้ง Premium Partner เช่น ช่อง 3,5,7,9 และ local creator เช่น เสือร้องไห้ channel เป็นต้น ไม่ต้องง้อ TV แล้วค่ะ ฮ่าๆ
• Driving Conversion : โดยการ remarketing YouTube viewers เราสามารถ remarketing ได้เยอะมากกกกทั้งคนที่ ดู VDO, คนที่ Like/Unlike , คนที่ comment หรือ คนแม้กระทั้ง คนที่ share VDO ของเรา
• Advocacy & Royalty : YouTube.co.th อนุญาตให้แบรนด์สร้าง channel ของตนเองในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อสร้าง value ของแบรนด์และ เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น
วันนี้ ขอมาแชร์ประมาณนี้ก่อนนะคะ ไว้ได้ ข้อมูลจาก Google Thailand เมื่อไหร่จะรีบมา อัพเดท Full Version ให้ค่ะ
Oak Somwong 